การปรับฐานของตลาดหุ้นเวียดนาม เกิดจากสาเหตุอะไร?
ประเด็นที่น่าสนใจที่สุด เห็นจะเป็น การที่รัฐบาลชุดใหม่ของนายเหวียน ซน ฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม เตรียมร่างกฎหมายใหม่ ซึ่งจะเปิดทางให้ชาวต่างชาติถือครองที่ดินสูงสุดจากเดิม 70 ปี ไปเป็น 99 ปี เพื่อดึงดูการลงทุนของต่างชาติเข้ามาในเขตเศรษฐกิจพิเศษ 3 แห่ง รองลงมาก็คือ สภานิติบัญญัติของเวียดนาม ได้ทำการรับรองร่างกฎหมาย "Cyber Security" ให้รัฐบาลเวียดนามสามารถเข้าถึงข้อมูลออนไลน์ของประชาชนเพื่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งถือว่าผิดจังหวะมากๆ เพราะการรับรองร่างกฎหมายนี้ เกิดขึ้น 2 วันให้หลังจากการที่ประชาชนออกมาประท้วงกรณีร่างกฎหมายการถือครองที่ดินของชาวต่างชาติ จึงทำให้หลายฝ่ายมองว่า รัฐบาลพยายามตัดช่องทางสื่อสารของกลุ่มที่เคลื่อนไหวคัดค้านกฎหมายที่ดินหรือไม่? ประเด็นคือ ถึงเวียดนามจะเป็นชาติคอมมิวนิสต์ แต่ด้วยเศรษฐกิจแบบเปิดตามนโยบายที่มีมาก่อนหน้านี้ กฎหมายด้าน Cyber Security ถือเป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพของชาวเวียดนามทันที เพราะสิ่งที่เวียดนามไม่เหมือนจีนคือ ในโลกอินเตอร์เน็ต ชาวเวียดนามใช้ Social Media Platform จากต่างชาติอยู่ก่อนแล้ว เช่น Facebook ซึ่งเวียดนามถือว่ามีผู้ใช้งานมากเป็นอันดับ 7 ของโลกทีเดียว ร่างกฎหมายดังกล่าว บังคับให้บริษัทเทคโนโลยีต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจในเวียดนาม จำเป็นต้องตั้ง Server มาไว้ในประเทศ และต้องเปิดสำนักงานในประเทศด้วย ดังนั้นในแง่ของการเป็นนักลงทุน ก็ถือเป็นการเพิ่มต้นทุนให้กับบริษัทต่างชาติในการเข้าไปทำธุรกิจในเวียดนามด้วย ซึ่ง ณ ตอนนี้ประเด็นกฎหมายทั้งสองร่างนี้ ได้ถูกเลื่อนการพิจารณาออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งที่บานปลาย อีกเรื่องคือ ประเด็นเรื่อง Trade Wars ระหว่าง จีน กับ สหรัฐฯ เนื่องจากเศรษฐกิจเวียดนาม ขับเคลื่อนด้วยภาคการลงทุนจากต่างชาติ และการที่ตลาดหลัก 2 ตลาดกำลังฟาดฟันกัน ก็ทำให้บรรยากาศในการลงทุนเปลี่ยนไปในช่วงที่มีการตอบโต้กันไปมา ดังนั้นหากกระแสสงครามการค้ายังคงมีต่อ ก็คงกระทบกับทุกประเทศในเอเชียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่เพียงแค่เวียดนามเท่านั้นข้อดีของการที่เราไปลงทุนในเวียดนามในระยะยาว ยังดีเหมือนเดิมไหม?
✔ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กำไรบริษัทจดทะเบียนในปี 2019 จะโตมากกว่า 20% ซึ่งถือว่ามากกว่าประเทศอื่นๆในเอเชียส่วนใหญ่ นี่คือ ข้อดีข้อที่หนึ่ง คือ มี Growth ในอัตราที่สูง ✔ Forward P/E ของตลาดหุ้นเวียดนามอยู่แถวๆ 15 เท่า เทียบเท่ากับตลาดอื่นในเอเชียแล้ว ก็ถือว่าทำให้ตลาดหุ้นเวียดนามมีความน่าสนใจกว่ามากหลายตลาดในเอเชีย ✔ สภาพคล่องตลาดหุ้นเวียดนามเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศ และตลาดหลักทรัพย์เวียดนามเอา ก็เริ่มมีการลดข้อจำกัดด้านการถือครองของนักลงทุนต่างชาติ (FOL) ทำให้ในอนาคตมีโอกาสเข้าไปรวมคำนวนในดัชนี MSCI Emerging Market Index ซึ่งวางแผนไว้ว่าน่าจะเข้าคำนวนได้ในปี 2022 หรืออีก 4 ปีข้างหน้า
GDP per Capita ของประเทศเวียดนามปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ดัชนี Manufacturing PMI ของเวียดนามเดือนมิ.ย. อยู่ที่ 55.70 จุด เป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี
Government Debt to GDP อยู่ที่ 61.50% ในปี 2017 ที่ผ่านมา ปรับสูงขึ้นมาเรื่อยๆ จากการขยายตัวของเศรษฐกิจ
กราฟดัชนี VNI หรือ Vietnam Index บอกอะไรเราบ้าง?

